Leicester City 2-2 Everton

เลสเตอร์ ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน ต้องจบลงด้วยการเสมอกันในเกมที่วุ่นวาย ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต้องเจอปัญหาหนักที่ตำแหน่งรองจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก

ทั้งสองสโมสรเริ่มเกมในสามอันดับแรกแต่แต้มเดียวก็เพียงพอที่จะลากเลสเตอร์ออกจากโซนตกชั้นด้วยผลต่างประตูได้เสีย ขณะที่เอฟเวอร์ตันอยู่ที่อันดับ 19 ตามหลังลีดส์อันดับ 17 หนึ่งแต้ม

Dominic Calvert-Lewin เปิดการทำประตูด้วยเพียงประตูที่สองของฤดูกาลจากจุดโทษ ทำให้ตัวเองเปลี่ยนใจได้หลังจากถูก Timothy Castagne มัดไว้

ขึ้นนำเพียง 7 นาที ขณะที่เจ้าภาพตีเสมอได้จาก Caglar Soyuncu ที่จบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยมจากการล้มลงของ Wout Faes

และเลสเตอร์พลิกเกมหลังจากผ่านไป 33 นาทีเมื่อเจมี่ วาร์ดี้ผู้ร่าเริงจับบอลผ่านบอลของเจมส์ แมดดิสันก่อนจะปัดให้จอร์แดน พิคฟอร์ดและจังหวะเจ้าบ้าน

ทอฟฟี่ควรจะเสมอกันก่อนพักครึ่ง แต่คัลเวิร์ต-เลวินวางแผนพลาดประตูเปิดจากระยะ 2-3 หลาโดยที่บอลดูเหมือนจะกระแทกส้น ก่อนที่เลสเตอร์จะพังอีกด้านและวาร์ดี้ไปชนคาน

ยังมีเวลาในครึ่งแรกที่แทบหยุดหายใจสำหรับพิคฟอร์ดที่จะเซฟจุดโทษของแมดดิสัน ซึ่งโดนมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษยิงเข้าตรงกลาง

มันพิสูจน์แล้วว่าแพงเมื่อผู้มาเยือนดึงระดับเก้านาทีหลังจากการรีสตาร์ทเมื่ออเล็กซ์ อิโวบีนำทางในจังหวะจบสกอร์ที่ต่ำ แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาผู้ชนะได้

ในขณะเดียวกัน เอฟเวอร์ตันก็กังวลกับการบาดเจ็บที่ดูสาหัสของกัปตันเชมัส โคลแมน ซึ่งรักษาไว้ได้ในช่วงเปิดการแข่งขันหลังจากการปะทะกับบูบาการี ซูมาเร

เกมดังกล่าวดำเนินไปอย่างราบรื่นระหว่างทั้งสองฝ่ายโดยมีเป้าหมายเพื่อความอยู่รอดในลีกสูงสุด แต่เป็นโอกาสที่พลาดไปในการตั้งเป้าที่จะหลบหนีจากการตกชั้น

บรรยากาศอันน่าตื่นเต้นถูกสร้างขึ้นที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมจากทั้งแฟนบอลเจ้าบ้านที่ส่งเสียงปรบมือ

ในที่สุด การพลาดจุดโทษของแมดดิสันในช่วงท้ายครึ่งแรกกลายเป็นช่วงเวลาสำคัญ เพลย์เมคเกอร์รายนี้ถูกสั่งให้รอจังหวะเตะลูกจุดโทษก่อนจะซัดเข้าใส่พิคฟอร์ด

มันน่าจะทำให้เลสเตอร์ขึ้นนำ 3-1 และอาจไม่อยู่ในสายตา แต่ลูกทีมของฌอน ไดช์ก็รอดจากการตีเสมอของอิโวบีในนาทีที่ 54

มิดฟิลด์แมดดิสันมีส่วนร่วมอย่างมากตลอดทั้งเกม เช่นเดียวกับการพลาดจากระยะ 12 หลา และเห็นการไดร์ฟต่ำและพยายามโค้งงอโดยเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษของเขา

ฝ่ายเจ้าบ้านฟื้นตัวจากจุดโทษในนาทีที่ 15 ของ Calvert-Lewin เพื่อพลิกเกมเมื่อกองหลัง Soyuncu ปรับระดับและ Vardy ย้อนกลับไปหลายปีด้วยการจบแบบวินเทจ

แต่ปัญหาของเลสเตอร์อยู่ที่เกมรับที่แนวรับพรุนไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ใน 19 เกมที่ผ่านมา ย้อนหลังไปถึงเดือนพฤศจิกายน

พวกเขายังพลาดโอกาสที่จะเก็บชัยชนะติดต่อกันในบ้านเป็นครั้งแรกในรอบปี และแบกรับจุดเด่นของทีมที่ตกชั้น

แม้จะไม่แพ้ใครมา 3 เกมติดต่อกัน แต่จิ้งจอกสยามก็ชนะแค่เกมเดียวจาก 12 เกมหลังสุด โดยเก็บได้เพียง 6 แต้มเท่านั้น

เลสเตอร์เหลือเกมอีกสี่เกมเพื่อรักษาสถานะในลีกสูงสุดของพวกเขา เกมเยือนฟูแล่มและนิวคาสเซิล และเกมเหย้ากับลิเวอร์พูลและเวสต์แฮมในวันสุดท้ายของฤดูกาล

เช่นเดียวกับคู่แข่งของพวกเขา เอฟเวอร์ตันติดอยู่ในร่อง แม้จะออกสตาร์ตได้อย่างสดใส แต่ท๊อฟฟี่ก็เก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 11 เกมที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของไดช์ และแปดแต้มที่ได้รับจากการวิ่งครั้งนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขารอดพ้นจากปัญหา

นี่เป็นโอกาสสำคัญในการกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ และเริ่มต้นได้ดีจากลูกจุดโทษของคัลเวิร์ต-เลวิน แต่เป็นการยากที่จะดูว่าแต้มจะมาจากจุดไหนในเกมที่เหลือ

พวกเขาเดินทางไปยังไบรท์ตันที่น่าประทับใจในนัดต่อไป ก่อนที่จะเปิดบ้านรับจ่าฝูงของลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และปิดท้ายฤดูกาลที่กูดิสัน พาร์ค กับบอร์นมัธที่กำลังฟอร์มดี

ในระหว่างนั้น พวกเขาต้องพบกับการไปเยือนวูล์ฟส์ แต่นั่นก็ยากเหมือนกันสำหรับทีมที่ไม่ชนะใครเลยตลอด 15 นัดหลังสุด และเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 เกมจาก 34 เกมเยือนในลีก

ผู้ทำประตูที่ต่ำที่สุดของลีกสามารถคว้าสองแต้มได้ในครั้งนี้ และไดช์ก็พอใจที่จะกอบกู้แต้มได้ แต่มันอาจจะดีกว่านี้มากหากจบสกอร์ที่เฉียบคมมากขึ้น

ดาเนี่ยล ไอเวอร์เซ่นเซฟได้อย่างน่าทึ่งเพื่อสกัดกั้นอิโวบีในช่วงต้นครึ่งแรก และผู้รักษาประตูชาวเดนมาร์กยังพยายามอย่างเต็มที่ รวมถึงการยิงพลาดที่น่าตกใจของคัลเวิร์ต-เลวิน และการโจมตีของดไวท์ แม็คนีลจากระยะ 8 หลา

แต่เขาเซฟอย่างสุดความสามารถจนกระทั่งช่วงสายเมื่อเอฟเวอร์ตันไล่ต้อนผู้ชนะ และอับดูลาเย ดูคูเรก็เดินไปข้างหน้าก่อนจะปล่อยลูกธนูต่ำซึ่งไอเวอร์เซนก็หมุนรอบเสาจนสุด

............................................................................................................................................................................................................ติดตามข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม : วิเคราะห์บอลเจลีก