Real Madrid 1-1 Manchester City

เสียงกรี๊ดของเควิน เดอ บรอยน์ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้จับสลากแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศเลกแรกที่พบกับเรอัล มาดริด เพื่อรักษาความฝันในการคว้าเทรเบิลให้ได้

ซิตี้รู้ดีว่าชัยชนะนัดเปิดบ้านพบมาดริดในวันพุธหน้าจะส่งพวกเขาไปถึงนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกนัดที่สองเท่านั้น ต่อจากอินเตอร์ มิลานหรือเอซี มิลาน

ฝ่ายของ Pep Guardiola ครองช่วงแรกที่ Bernabeu ประหม่าโดย Thibaut Courtois ปฏิเสธ De Bruyne, Rodri และ Erling Haaland สองครั้ง

แต่วินิซิอุส จูเนียร์ทำประตูได้ด้วยโอกาสเดียวของเรอัลในครึ่งแรก สายฟ้าระยะ 25 หลาที่บินผ่านเอแดร์สันหลังจากเอดูอาร์โด คามาวินกาวิ่งอย่างยอดเยี่ยม

เช่นเดียวกับที่เรอัลเริ่มครองเกมได้ในช่วงครึ่งหลัง ซิตี้ก็หาทางสวนกลับโดยที่เดอ บรอยน์ยิงจากระยะใกล้เคียงกันเข้าที่มุมด้านล่าง

Aurelien Tchouameni เกือบให้ Real โดยต้องการขยายสถิติของพวกเขาไปสู่มงกุฎที่ 15 ของยุโรป นำอีกครั้งด้วยการโจมตีจากระยะไกลอีกครั้ง แต่ Ederson เซฟไว้ได้ดี

ตอนนี้ซิตี้ไม่แพ้ใครมา 21 เกมในทุกรายการ รวมชนะ 17 นัด ชัยชนะอีกเจ็ดครั้งและพวกเขาได้รับเสียงแหลม

แชมเปียนส์ลีกคือสิ่งที่ขาดหายไปสำหรับซิตี้และพวกเขาเป็นทีมยุโรปที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันที่ไม่เคยชนะ

ฟังดูง่ายมาก แต่พวกเขาแค่ต้องเอาชนะเรอัล ซึ่งอยู่อันดับสามในลาลีกาในบ้าน และต่อด้วยทีมอันดับสี่หรือห้าในเซเรียอาของอิตาลีในนัดชิงชนะเลิศที่อิสตันบูล มิลานเผชิญหน้ากับอินเตอร์ในวันพุธ

ไม่ใช่ว่ากวาร์ดิโอลาจะปล่อยให้ผู้เล่นของเขาหลงไปกับสถานการณ์นั้น

พวกเขานำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อจากอาร์เซนอลโดยเหลือเกมให้เล่นอีก 4 นัด และเผชิญหน้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมอังกฤษทีมเดียวที่คว้าเทรเบิลได้ 3 รายการในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศในเดือนมิถุนายน

พูดคุยก่อนเกมเป็นการล้างแค้น โดยเรอัล เอาชนะซิตี้ในฤดูกาลที่แล้วด้วยสกอร์รวม 6-5

แต่หนึ่งปีผ่านไป ซิตี้ดูโตขึ้นและแทบไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย เกมนี้มีความตื่นเต้นและร้อนแรง แต่ขาดความโกลาหลของเลกแรกของฤดูกาลที่แล้วซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 4-3

กวาร์ดิโอลารู้จักทีมที่ดีที่สุดของเขาแล้วในตอนนี้ ดังนั้นวันเวลาที่ต้องใช้แทคติคช็อตซึ่งมักจะใช้ไม่ได้ผลในเกมแบบนี้ดูเหมือนกลายเป็นอดีตไปแล้ว

พวกเขาเล่นเกมนี้ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในบ้าน กูร์กตัวส์เซฟได้ 4 ครั้งในช่วงเปิดเกม 16 นาทีเดียว

แต่จากนั้นพวกเขาก็ไล่ตามเป้าหมายของวินิซิอุส โดยนักเตะบราซิลรายนี้ทำประตูใส่ซิตี้ได้ด้วยเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ท้อถอย และสถิติไร้พ่ายตลอด 3 เดือนของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป ต้องขอบคุณเดอ บรอยน์

Ilkay Gundogan วางบอลให้กับ De Bruyne ซึ่งยิงผ่าน Courtois เพื่อนร่วมทีมชาวเบลเยียมของเขา หลังจากทำประตูได้ในปี 2020 เดอ บรอยน์เป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์แชมเปียนส์ลีกที่ทำประตูแยกจากเกมเยือนเรอัล ในรอบน็อกเอาต์

ซิตี้ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนตัวเลย ไม่เคยมีโอกาสชนะเกมนี้เลย จากการยิงนัดสุดท้ายของเกม สัปดาห์หน้าพวกเขาหวังว่าจะเห็นฮาลันด์ 51 ประตูมีความสุขมากขึ้นเมื่ออยู่หน้าประตู

ออร่าของมาดริดในแชมเปียนส์ลีกเป็นสิ่งที่พิเศษ พวกเขาไม่ใช่ผู้ป้องกันแชมป์และผู้ชนะ 14 สมัยโดยบังเอิญ

ในประเทศพวกเขาตามหลังแชมป์เปี้ยนอย่างบาร์เซโลน่าถึง 14 คะแนน โดยที่แอตเลติโก้ มาดริด เหนือกว่าพวกเขาเช่นกัน

แต่พวกเขาคว้าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัยใน 9 ปี โดย 2 แชมป์มาในฤดูกาลที่พวกเขาจบอันดับ 3

ฝ่ายของคาร์โล อันเชลอตติเข้ามาในเกมนี้ด้วยข่าวในประเทศที่ดี โดยชนะในนัดชิงโคปา เดล เรย์กับโอซาซูนาเมื่อวันเสาร์

แต่นี่คือจุดที่ Real เติบโต - มักจะพบกับสโมสรในอังกฤษด้วย นี่เป็นรอบน็อกเอาต์ที่หกติดต่อกันกับซิตี้, เชลซี หรือลิเวอร์พูล พวกเขาผ่านเข้ารอบมาได้อีกห้านัด

ครึ่งแรกเป็นการทุบและคว้าในระดับหนึ่งโดยประตูของ Vinicius มาจากการโจมตีจริงครั้งแรกของพวกเขา มีเพียงฮาลันด์ (13 - 12 ประตู 1 แอสซิสต์) ที่มีส่วนร่วมกับประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่าวินิซิอุสในฤดูกาลนี้ (12 - 7 ประตู 5 แอสซิสต์)

พวกเขาเติบโตในเกมในครึ่งหลังโดยเดอบรอยน์ทำให้พวกเขาได้ลิ้มรสยาของตัวเองด้วยการทำประตูหลังจากสิ้นสุดช่วงเวลาที่ดีสำหรับเรอัล

Camavinga ผู้ตั้งเป้าหมายส่งบอลให้ Rodri ในการสร้าง โดยเน้นข้อดีและข้อเสียของการเล่นกองกลางตัวกลางที่แบ็คซ้าย

อันเชล็อตติ นายใหญ่ของมาดริดถูกใบเหลืองเพราะปฏิกิริยาโกรธของเขาต่อประตู โดยอ้างว่าลูกบอลหลุดออกจากสนามในช่วงเริ่มต้น ฝ่ายของเขามีโอกาสชนะเกมนี้ด้วยลูกโหม่งของเบนเซม่าที่เอแดร์สันเซฟไว้ได้ ก่อนที่โชอาเมนีรองจากฝรั่งเศสจะเข้าใกล้

............................................................................................................................................................................................................ติดตามข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม : วิเคราะห์บอลเจลีก